ฟีเจอร์ใหม่ที่อาจจะได้เห็นใน iPhone 13

หากกล่าวถึงโทรศัพท์มือถือที่ได้รับความนิยมทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ ผลิตภัณฑ์จาก Apple อย่าง iPhone จะต้องเป็นตัวเลือกลำดับแรก ๆ ของหลายคนอย่างแน่นอน ซึ่งมือถือ iPhone จะมีรูปแบบการทำงานที่แตกต่างจากแบรนด์อื่น ๆ นั่นคือ ใช้ระบบปฏิบัติการแบบ IOS (ในขณะที่แบรนด์อื่น ๆ ใช้ระบบปฏิบัติการ Android) และสาเหตุที่ทำให้ iPhone กลายเป็นที่ต้องการของคนยุคใหม่ คงเป็นเพราะดีไซน์ของตัวเครื่องที่มีความเรียบหรูทันสมัย ที่สำคัญยังมีฟีเจอร์ใหม่ ๆ ให้เราได้ว้าวกันในทุกรุ่นอีกด้วย

อย่างล่าสุด ที่ได้เปิดตัวกันไปหมาด ๆ กับ iPhone 12 ที่ออกมาให้ได้เลือกมากถึง 4 รุ่น คือ iPhone 12 Mini, iPhone 12, iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max ที่ถึงแม้จะเปิดตัวในช่วงสถานการณ์โควิด-19 แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้การเปิดตัวของ iPhone 12 ได้รับความน้อยลงแต่อย่างใด

แต่เปิดตัวไปไม่ทันไรก็มีข่าวแว่ว ๆ มาว่า Apple กำลังจะเปิดตัว iPhone 13 (อีกแล้ว) ทำให้หลายคนที่กำลังจะไปถอย iPhone 12 ต้องพับโครงการเก็บไว้ แล้วเตรียมไปสอย iPhone 13 แทน งานนี้เราเลยได้รวบรวมฟีเจอร์ที่คุณอาจจะได้เห็นใน iPhone 13 มาฝากกัน

iPhone 13 มีลูกเล่นอะไรใหม่บ้าง ?

Apple A15 : iPhone 13 จะเปิดตัวมาพร้อมกับชิปเซ็ตรุ่นใหม่ Appe A15 Bionic โดยรุ่นนี้จะถูกขึ้นด้วยเทคโนโลยี 5nm+ ที่ยังไม่ได้ใช้เทคโนโลยีใหม่ 3nm และคาดว่าเราจะได้เห็น Apple ใช้ 3nm ราว ๆ ปีหน้า

รอยบากเล็กลง : iPhone 13 ยังคงมีรอยบากบนหน้าจอให้ได้เห็นกันต่อไป แต่รอยบางจะมีขนาดที่เล็กลงเมื่อเทียบกับ iPhone รุ่นก่อน ๆ

แบตเตอรี่ใหญ่ขึ้น : ถือเป็นข่าวดีว่าคนที่เป็นเจ้าของ iPhone 13 จะได้รับแบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ผลที่ตามมาคือจะมีระยะเวลาในการชาร์จที่นานกว่าเดิม ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เพิ่มขนาดแบตเตอรี่ได้ เป็นเพราะการออกแบบโครงสร้างภายในที่ถูกทำให้เล็กลงมากกว่าเดิม

เซนเซอร์กันสั่นใหม่ : ใน iPhone 13 ทุกรุ่นจะมาพร้อมกับเซนเซอร์กันสั่น Sensor-shift camera stabilization ที่ใช้อยู่ใน iPhone 12 Pro Max แต่มันดีตรงที่ iPhone 13 ใส่ให้ทุกโมเดล

5G อัปเกรดใหม่ : ในปัจจุบันจะใช้โมเด็ม 5G ของ Qualcomm – Snapdragon X55 ที่ผลิตขึ้นด้วยเทคโนโลยี 7nm แต่ช่วงปลายปีนี้จะใช้เป็น Snapdragon X60 ผลิตขึ้นด้วยเทคโนโลยี 5nm ผลลัพธ์ที่ได้คือในเนื้อที่ภายในมากขึ้น ประหยัดแบตเตอรี่ และคุณภาพสูงขึ้น

Wi-Fi 6E : ข้อดีของมันคือ มีการใช้งานด้วยประสิทธิภาพที่สูงกว่า ความหน่วงน้อยกว่า และอัตราการถ่ายโอนข้อมูลเร็วกว่า

จอ 120Hz : ก่อนหน้านี้เคยเป็นหน้าจอ 90Hz และ 120Hz ไปแล้ว ใน iPhone 13 เราก็จะได้เห็น หน้าจอ 120Hz กันสักที

อัปเกรดเลนส์ Ultra-wide : Apple จะอัปเกรดประสิทธิภาพของ iPhone 13 ใหม่ โดยเฉพาะเลนส์ Ultra-wide หรืเลนส์มุมกว้าง โดยเพิ่มขนาดรูรับแสงเป็น f/1.8 จากเดิม f/2.4 ใน iPhone 12 ทำให้ถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีกว่าเดิม

ทั้งหมดนี้ก็เป็นฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่เราอาจจะได้เห็นกันใน iPhone 13 แต่หากใครที่ทนรอไม่ไหว หรือคิดว่า iPhone 13 ก็ไม่ได้แตกต่างจาก iPhone 12 มากเท่าไหร่ ก็กางโครงการออกมาแล้วไปสอย iPhone 12 ก็ได้เช่นกัน

ขอบคุณข้อมูล : Sanook